ตามคติความเชื่อของลัทธิเต๋าของจีน เชื่อว่ามีประมุขที่ใหญ่สูงสุดในสวรรค์ คือ ประมุขฟ้า ซึ่งมักรู้จักกันว่าเป็นเง็กเซียนฮ่องเต้หรือ อวี้หวงต้าตี้ ที่ดำรงตำแหน่งอยู่ ซึ่งถ้าเทียบได้ก็คือ ฮ่องเต้นั่นเองซึ่งตำแหน่งนี้มีหน้าที่ปกครองทั้ง 3 ภพ สร้างความสงบสุขใน3ภพด้วย พระองค์ทรงเป็นใหญ่เหนือกว่า
พญามังกร(เจ้าสมุทร) พระยายม(เจ้านรก) เทพ 2 องค์นี้จะรับคำสั่งและหน้าที่จากเง็กเซียนฮ่องเต้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการให้ฝน พระองค์ก็จะสั่งให้เทพมังกรไปปล่อยตามสถานทีต่างๆที่ระบุ ส่วนการคุมกฎแห่งฟ้า การเกิดแก่เจ็บตาย บัญชีมรณะ ซึ่งเป็นหน้าที่ของพระองค์เช่นกัน แล้วพระองค์ก็มอบหน้าที่ให้พระยายมราชดูแลเพื่อตัดสินกรรม ถ้ากรรมดีก็ไปภพที่ดี ถ้ากรรมชั่วก็จะตกนรก อย่างนี้เป็นต้น
ชาวจีนยกย่องเง็กเซียนฮ่องเต้ หรือ อวี้หวงต้าตี้ (พระเจ้าหยก) เป็นเจ้าแห่งจักรวาล ประมุขแห่งฟ้า พระัองค์ทรงสามารถควบคุม พระอาทิตย์ พระจันทร์ ลม ฟ้า ซึ่งเป็นธรรมชาติ และตลอดจนการดำรงชีพของมนุษย์ เช่น การเกิด การตาย อายุขัย แต่กว่าพระองค์จะมาถึงในจุดๆนี้พระองค์ทรงผ่านอุปสรรคต่างๆนานานับประการ ความเป็นมาแห่งเง็กเซียนฮ่องเต้ตามเทวตำนานมีดังนี้ พระองค์เป็นพระโอรสแห่งกษัตริย์ประเทศกวงเหยียนเมี่ยวเล่อ คือ จักรพรรดิจิ้งเต๋อ ซึ่งพระองค์ทรงมีพระชนมายุมากแล้ว แต่ยังไม่มีพระโอรส พระธิดาที่จะสืบพระราชสมบัติเสียที พระองค์ทรงให้ราชครูและนักพรตมากมายทำการขอพระโอรสจากสวรรค์นานเป็นครึ่งปี
จนพระนางเป่าเย่ว์กวงซึ่งเป็นพระมเหสีทรงพระสุบินว่า มี นักพรตก็คือ ไท่เสียงเล่ากุนนั่งรถเทียมมังกร 5 สี มาพร้อมกับเซียนหลายพระองค์ ไท่เสียงเหล่ากุนเดินเข้ามาพระนางโดยอุ้มเด็กทารกที่มีแสงสว่างรอบตัวทำให้พระราชวังสว่างไสว พระนางปิติปรารถนาเด็กทารกนั้นมาเป็นพระโอรส จึงวินวอนขอจากไท่เสียงเล่ากุน ไท่เสียงเล่าทุนมอบเด็กน้อยนั้นให้แก่พระนาง หลังจากนั้นพระนางก็ทรงพระครรภ์เป็นเวลา1ปีและให้กำเนิดพระโอรส พระโอรสมีความเมตตากรุณา ชอบประกอบทำทาน ช่วยเหลือพสกนิกร และต่อมาพระราชบิดาก็สวรรคต ซึ่งต่อมาพระองค์ก็ขึ้นปกครองแทนพระราชบิดา แต่ว่าพระองค์กลับเบื่อในการปกครองและราชสมบัติ พระองค์ทรงมอบพระราชบัลลังก์และราชสมบัติให้แก่พระญาติ แล้วพระองค์เองทรงออกบวชศึกษาธรรมยังเขาฝู่หมิงซิ่ว พระองค์ต้องผ่าฟันอุปสรรคนัก 3,200 จึงจะบรรลุเป็นเทพ กลายเป็นเง็กเซียนฮ่องเต้ประมุขฟ้า เจ้าผู้ครองสวรรค์นั่นเอง แต่ตอนนี้มีความเชื่อว่า ประมุขจะมีการเปลี่ยนเหล่าเทพจะผลักกันขึ้นเป็น แต่ประมุของค์ปัจจุบันคือ เทพเจ้ากวนอู นั่นเอง
ชาวจีนมีความเชื่อว่าทีกงคือผู้ดลบันดาลทุกอย่างที่มีบนโลก ทั้งธรรมชาติ ดวงชะตา และความเป็นไปของมนุษย์ ดั้งนั้นทีกงจึงมีผลต่อวิถีของชาวจีน ตามศาลเจ้าหรือวัดจีนทั่วโลก ก่อนที่จะทำการบูชาเทพเจ้าองค์อื่นต้องบูชาทีกงเป็นอย่างแรกเพื่อเป็นการให้เกียรติ โดยตามศาลเจ้าจีนส่วนมากจะตั้งกระถางธูปของทีกงไว้ตรงหน้าของศาล โดยตรงกระถางธูปหรือป้ายบูชาทีกงของคนจีนแต่ละกลุ่มภาษาจะสลักตัวอักษรแตกต่างออกไป ศาลเจ้าของชาวฮกเกี้ยนและชาวกวางตุ้ง จะสลักคำว่า เทียนก๊วนซูฮก ศาลเจ้าของชาวแต้จิ๋วและไหหลำ จะสลักคำว่า ทีตี่แป้บ้อ
ในทุกปีหลังวันตรุษจีนไปแล้ว 8 วัน ชาวจีนฮกเกี้ยนทั่วโลกจะมีพิธีทีกง เรียกกันว่า ป่ายเทียนกง เพื่อเป็นการระลึกถึงพระคุณของเง็กเซียนฮ่องเต้และเป็นวันประสูติของพระองค์ และมีความเชื่อว่าเมื่อสมัยราชวงค์หมิงชาวจีนฮกเกี้ยนทุกรุกรานจากญี่ปุ่นจึงพากันหนีไปหลบกันในดงอ้อย เมื่อญี่ปุ่นยกทัพกลับไปจึงได้พากันออกมา วันนั้นเป็นวันที่ 9 คำ เดือน 1 (จีน) พอดีซึ่งตรงกับวัน ป่ายทีกง ชาวจีนฮกเกี้ยนจึงเชื่อว่าที่พวกตนรอดจากการรุกรานของญี่ปุ่นเป็นเพราะทีกงช่วยเอาไว้ จึงได้จัดการป่ายทีกงในวันประสูติของเง็กเซียนฮ่องเต้ในทุกๆปี เพื่อเป็นการระลึกถึงพระคุณ และ ได้นำต้นอ้อยมาร่วมในบูชาด้วย และอ้อยในภาษาจีนฮกเกี้ยนเรียกว่า ก้ามเจี่ย ซึ่งไปพ้องเสียงกับคำว่า กัมเสี่ย ซึ่งแปลว่า ขอบคุณ
ยี่หนึงจินกุน หลานของเง็กเซียน เป็นตัวละครในเรื่องไซอิ๋ว ท่านเป็นผู้เดียวที่สามารถปราบซุนหงอคงแล้วเอาตัวมาลงโทษบนสวรรค์ได้ แต่อย่างไรก็ตามซุนหงอคงมีฤทธิ์มากเมื่อนำตัวขึ้นสวรรค์ไปประหารก็ไม่ตาย ทางสวรรค์จึงขออาศัยบารมีพระพุทธเจ้า (พระยูไล) พระพุทธเจ้าจึงจับตัวหงอคงไปขังไว้ใต้ภูเขาเป็นเวลานานถึง 500 ปี รอจนผู้มีบุญมาช่วย ซึ่งผู้มีบุญนั้นคือพระแม่กวนอิมและพระเสวียนจั้ง และทำให้หงอคงกลับตัวกลับใจจนเข้าร่วมอัญเชิญพระไตรปิฎกอีกด้วย ยี่หนึงจินกุนมีพี่น้อง 7 คน